ภาพสไลด์

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

โรคหนองในเทียม Non Gonococcal Urethritis (NSU)

โรคหนองในเทียมหมายถึงการอักเสบของท่อปัสสาวะที่เกิดเชื้อโรคที่ไม่ใช่หนองในแท้ (Gonococcal Urethritis) สำหรับเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคหนองในเทียมได้แก่



Chlamydia trachomatis
Ureaplasma urealyticum 10-40%
Trichomonas vaginalis (rare)
Herpes simplex virus (rare)
Adenovirus
Haemophilus vaginalis
Mycoplasm genitalium
เชื้อที่เป็นสาเหตุบ่อยที่สุดคือ Chlamydia trachomatis

เราได้รับเชื้อหนองในเทียมได้อย่างไร

คนติดเชื้อหนองในเทียมจากการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะทางทวาร ปาก หรือทางช่องคลอด นอกจากนั้นก็มีโรคที่ทำให้เกิดหนองในเทียมเช่น

การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
การอักเสบของต่อมลูกหมาก
ท่อปัสสาวะตีบ urethral stricture
การอักเสบของหนังหุ้มอวัยวะเพศ
การใส่สายสวนปัสสาวะ
อาการของผู้ที่เป็นหนองในเทียม

ผู้ชาย

หนองไหลออกจากอวัยวะเพศ
ปวดแสบร้อนเวลาปัสสาวะ
คันหรือระคายเคืองท่อปัสสาวะ
ปวดหน่วงบริเวณอวัยวะเพศ
ผู้หญิง

ตกขาว
ปัสสาวะขัด
ปวดท้องน้อย มีเลือดออกขณะร่วมเพศ
การวินิจฉัยโรคต้องทำอย่างไร

การวินิจฉัยทำโดยการน้ำหนองหรือสารคัดหลั่งจากช่องคลอด หรืออวัยวะเพศมาเพาะเชื้อ หรือส่องกล้องตรวจ
เมื่อย้อมจะพบเม็ดเลือดขาวมากกว่า 5 เซลล์
การป้องกัน

วิธีดีที่สุดคือการงดเพศสัมพันธ์
ใช้ถุงยางอนามัย
มีสามีหรือภรรยาคนเดียว
หากต้องการมีคู่นอนคนใหม่ต้องตรวจเช็คก่อนทุกครั้ง
หากคุณเป็นโรคหนองในเทียมให้งดการมีเพศสัมพันธ์
ให้รักษาทั้งตัวคุณเองและคู่ครอง
การรักษา

ยาที่ใช้ในการรักษามี Azithromycin 1 g รับประทานครั้งเดียว
หรืิอ Doxycycline 100 mgรับประทานวันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 7วัน
ยาที่เป็นตัวเลือกอื่น Erythromycin 500 mg รับประทานวันละ 4 ครั้งเป็นเวลา 7 วัน
หรือ Ofloxacin 300 mg วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 7 วัน
สำหรับผู้ที่เป็นเรื้อรังหรือรักษาไม่หายให้ใช้ยา Metronidazole 2 g รับประทานครั้งเดียวและ Erythromycin 500 mg รับประทานวันละ 4 ครั้งเป็นเวลา 7 วัน
โรคแทรกซ้อนที่สำคัญ

หากท่านเป็นโรคหนองในเทียมโดยที่มีหรือไม่มีอาการแล้วไม่ได้รักษาท่านอาจจะมีโรคแทรกซ้อนที่สำคัญคือ

ในผู้ชาย

การอักเสบของอัณฑะ Epididymitis ซึ่งหากไม่รักษาอาจจะทำให้เป็นหมัน
ข้ออักเสบ Reiter's syndrome (arthritis)
เยื่อบุตาอักเสบ Conjunctivitis
ผื่นที่ผิวหนัง Skin lesions
หนองไหล Discharge
ในผู้หญิง

อุ้งเชิงกรานอักเสบPelvic Inflammatory Disease (PID)ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก
ปวดท้องน้อยเรื้อรัง Recurrent PID ซึ่งอาจจะทำให้เป็นหมัน
ท่อปัสสาวะอักเสบ Urethritis
ช่องคลอดอักเสบ Vaginitis
แท้ง Spontaneous abortion (miscarriage)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น